ปัจจัยที่ทำให้วัยรุ่นมีพฤติกรรมทางเพศ

1.การเกิดพฤติกรรมทางเพศเกิดจากตัว อาจเกิดจากฮอร์โมนของบุคลนั้น สภาพแวดล้อมเพื่อนฝูง จิตใจ การเจริญเติบโตของตัวเราเองนั้นมีผล และแตกต่างกันออกไป

2. ผลจากการเสพยา ขึ้นชื่อว่ายาเสพติดล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อ ตัวเอง ครอบครัวสังคมรังเกียจ และยังมีส่วนกระทบต่อร่างกาย และอารมณ์ทางเพศอีกด้วย

3.จากเพื่อน และคู่รัก การคบเพื่อนก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อนบางคนอาจเกิดหมกมุ่นในเรื่องเพศ เราควรเปิดใจและแนะนำสิ่งที่ถูกต้องให้กับตัวเด็กพูดจาดี สอนให้ทำประโยชน์ต่อสังคม ช่วยเหลือผู้อื่น แทนที่จะหมกอยู่กับเรื่องเพศสัมพัน

4.สื่อมวลชน มีผลกระทบทางเพศเป็นอย่างมาก เช่น ข่าวขมขื่น การแต่งตัวไม่มิดชิด สื่อต่างๆ โฆษณา รายการที่มีต่าง ทำให้เด็กมีพฤติกรรมทางเพศมากขึ้น

 

พฤติกรรมของเด็กก้าวร้าว

การจะตัดสินใจว่าลูกของเราก้าวร้าว หรือเป็นอาการของเด็กทั่วไปในวัยนั้นๆ เราควรทำความเข้าใจคำว่า เกเร ความหมายนี้คืออะไร อย่างพึงด่วนตัดสินใจ ต้องแยกประเภทให้แจ่มแจ้งเช่น ก้าวร้าวทางอารมณ์ ทางการพูด ทางพฤติกรรม และส่งผลกับบุคลใดบ้างเช่น พ่อแม่ เพื่อน ครู ซึ่งจะทำการตรวจสอบปัญหาได้ดียิ่งขึ้น การนิยามความก้าวร้าวของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง

การแก้ไขปัญหาการก้าวร้าวของเด็ก

เด็กที่ก้าวร้าวมักจะเกิดกับสภาวะรอบตัวเช่น เพื่อน พ่อแม่ หรือจำคนอื่นมาเป็นตัวอย่างจนทำให้เด็กมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ในการแก้ปัญหา บิดามารดา ควรจะใช้สติ และความสงบ พูดคุยดีๆ การลงโทษรุนแรงกับเด็กเป็นสิ่งที่ไม่ดีเพราะเด็กอาจเอาเป็นเยี่ยงอย่างได้ ซึ่งวิธีนี้ไม่เป็นผลดีต่อเด็กเท่าที่ควรเด็กจะเกิดความแข็งข้อมากกว่าเดิม บิดามารดาควรพูดจากับเด็กอย่างมีเหตุผลถามถึงปัญหา และแก้ให้ตรงจุด

 

จะรู้ได้ไงว่า ตั้งครรภ์

ผู้หญิงหลายคนอาจจะวิตกกังวลประจำเดือนไม่มา และอาจจะคิดว่าตัวเองนั้นได้ท้องหรือป่าว ลักษณะอาการบางคนนั้นจะแตกต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิงเช่น บางรายมีอาการอาเจียน เวียนหัว ประจำเดือนมาไม่ปกติ กระปิดกระปอย คัดเต้านม ท้องผูกกว่าปกติ เป็นต้น หรือบางคนอาจซื้อที่ตรวจที่ตรวจครรภ์มาตรวจเอง เพราะเดียวนี้ชุดตรวจนั้นมีความแม่นยำสูงมาก

อาการสำหรับคนท้องระยะแรกจะมีดังนี้

1.ประจำเดือนมาไม่ปกติ

การที่ประจำเดือนมาไม่ปกติก็ไม่แน่เสมอไปสำหรับการตั้งครรภ์เกิดได้หลายสาเหตุเช่น เกิดจากความเครียด ร่างกายผิดปกติ พักผ่อนน้อย เป็นต้น สำหรับคนตั้งครรภ์การที่ประจำเดือนไม่มานั้น ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนมายับยั้งการมีประจำเดือน เพื่อให้ท้องผู้คุณแม่นั้นแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

2.ปัสสวะมาก(ฉี่บ่อย)

ในการตั้งครรภ์ในระยะ 3 เดือนแรก ร่างกายคนท้องจะทำงานที่มากกว่าปกติ ไตทำงานมากขึ้น เลือดมากขึ้น มดลูกใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจากการตั้งครรภ์ ส่วนมดลูกที่ติดอยู่ด้านหลังกระเพราะปัสสวะนั้นได้โตขึ้นจึงบเป็นสาเหตุไปเบียดกระเพราะปัสวะให้เล็กลงจังทำให้คุณแม่นั้นฉี่ได้บ่อยกว่าเดิม

3.คัดเต้านม

ส่วนมากผู้หญิงมักจะคัด ตรึงเต้านมเวลาใกล้มีประจำเดือน แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์จะมีการคัดเต้านมที่ยาวนานกว่า เพื่อเตรียมการสร้างนมให้ลูกกิน นม และหัวนมจะใหญ่ขึ้นมีสำคล้ำ และมีเส้นเลือดสีเขียวขึ้นรอบๆ

4.อาการแพ้ท้อง

มักจะเห็นทั่วไปในหญิงที่มีการตั้งครรภ์ วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย บางท่านอาจอาเจียนในตอนเช้า และเย็น บางคนอาเจียนตลอดทั้ง เป็นผลมาจากน้ำตาลในเลือดต่ำนั้นเอง

5.กินอาการรสเปรี้ยว

คนตั้งครรภ์มักมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป รู้สึกกินอะไรก็ไม่อร่อย อยากกินอาหารแปลกกว่าเดิม กินของที่ตัวเองชอบยังบอกไม่อร่อย มักจะอาหารอาหารเปรี้ยวๆรสจัด ซึ่งเป็นผลดีต่อคุณแม่ทั้งหลายเช่นกัน เพราะอุดมไปด้วย วิตามินทั่งหลาย

.ยาพาราเซตามอล (paracetamol) ยาสามัญประจำบ้าน

ยาพาราเชื่อว่าทุกคนมีติดบ้านกันอยู่แล้วเป็นยา ลดไข้ บรรเทาอาการปวด เดี่ยวนี้ยาพารามีการปรับวิธีการให้ยาขนาด 500 mg      ห้ามรับประทานเกินวันละ 8 เม็ดต่อวัน เราควรอ่านฉลากให้ดีก่อนรับประทานยาเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง paracetamol สามารถใช้ร่วมกับสตรีมีครรภ์ เด็กต่ำกว่า 2 เดือนควรให้ปริมาณที่น้อยลง ส่วนมากผู้ใหญ่รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด ไม่ควรเกิน 8 เม็ดต่อวัน สำหรับเด็กที่มีอายุเกิน 16 ปี จะวัดตามน้ำหนัก และอายุ การใช้ยาให้เกิดผล ควรใช้เมื่อเริ่มมีอาการ และไม่ควรใช้เมื่อมีอาหารแย่แล้ว ยาจะออกฤทธิ์หลายชั่วโมง ผู้ใหญ่จะกินยาแก้ปวดขนาด 500 mg ได้นานเกิน 10 วัน แต่เด็ก ไม่ควรกินติดต่อเกิน 5 วัน ใช้ในการลดไข้ไม่ควรเกิน 3 วัน ถ้าไม่หายควรไปพบแพทย์ดีกว่าเพื่อตรวจอาการอย่างถูกต้อง